คุณประโยชน์ของเบอร์รี่แบบไทยๆ

thai-berries

หากพูดถึงเบอร์รี่ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงสิ่งที่ลงท้ายด้วยคำว่าเบอร์รี่เช่นสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ เชอรี่ แบลคเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เป็นต้น

แต่ในประเทศไทยเราก็มีผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เช่นกันได้แก่ ลูกหว้า มะเกี๋ยง มะเม่า มะขามป้อม ลูกหม่อน มะยม เชอรี่ไทย โทงเทงฝรั่ง ตะขบ เป็นต้น

ซึ่งมีงานวิจัยและการศึกษามากมายที่ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของการรับประทานผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ต่อการควบคุมน้ำหนัก โดยสารอาหารที่มีผลช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้แก่

ไฟเบอร์หรือใยอาหาร 

ระบบย่อยอาหารของคนเราไม่สามารถย่อยใยอาหารได้ แต่ใช้เป็นอาหารของแบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้ของมนุษย์บางส่วน ใยอาหารแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดที่ละลายน้ำ พบมากในส่วนของเนื้อเบอร์รี่มีลักษณะอ่อนนุ่มเมื่อผสมกับน้ำจะมีลักษณะหนืด ใยอาหารชนิดนี้มีผลต่อการทำงานของลำไส้ ทำให้การดูดซึมอาหารช้าลง ช่วยขัดขวางและลดการดูดซึมของไขมันรวมถึงคอเลสเตอรอล ส่วนใยอาหารอีกประเภทคือใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ พบมากบริเวณเปลือกเบอร์รี่ เนื่องจากไม่สามารถละลายในน้ำจึงมีส่วนเติมเต็มพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและช่วยทำให้การขับถ่ายดีขึ้น เพิ่มปริมาณของอุจจาระ ป้องกันการเกิดท้องผูก

วิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่สูง

เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม และมีแร่ธาตุที่สำคัญเช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ซีเลเนียม วิตามินและแร่ธาตุมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานและระบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีสมดุลย์การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผลก็คือเผาผลาญพลังงานได้ดี เมื่อระบบฮอร์โมนสมดุลย์ก็จะต้องการพลังงานจากอาหารประเภทไขมันและน้ำตาลน้อยลง ทำให้หิวน้อยลง นอกจากนี้วิตามินและแร่ธาตุยังมีส่วนช่วยให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง ลดการเกิดโรค

สารพฤษเคมี

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่น กลุ่มแทนนิน ฟลาโวนอยด์ เทอร์ปีน แอนโทไซยานิน ซึ่งช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อรา ต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ป้องกันความเสื่อมสภาพของร่างกาย ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน ทำให้ระบบการเผาผลาญไขมันดีขึ้น ช่วยดึงเอาไขมันหน้าท้องมาใช้ให้เป็นพลังงาน

นอกจากนี้ยังให้พลังงานต่ำเนื่องจากผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่มีใยอาหารสูงและน้ำตาลต่ำ ไม่มีไขมันหรือมีไขมันเพียงเล็กน้อยมาก ทำให้สามารถรับประทานได้ในปริมาณมากกว่าอาหารประเภทอื่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 1 ถ้วยให้พลังงานประมาณ 50-80 แคลอรี่ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นที่มีน้ำตาลสูงเช่น กล้วย สับปะรด ลำใย ทุเรียน จะให้พลังงานมากกว่า 2-3 เท่าในปริมาณเท่ากัน เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่สูงก็จะแปรสภาพเป็นไขมันเก็บสะสมตามร่างกายได้